การใช้งาน และขยายสัญญาน Wi-Fi จาก ONU Router Mode
ถ้า ONU ที่ติดตั้งไว้เป็นแบบ All-in-one นั่นหมายความว่า ONU ตัวนั้นมีสว่นประกอบทั้งหมดที่จำเป็นต่อการเชื่อมต่อเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่ในตัวเดียวแล้ว รวมไปถึงส่วนของเสา Wi-Fi ด้วย ดังนั้นการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi จาก ONU Router Mode ก็จะเหมือนกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน Router ทั่วไป โดย ONU จะเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างอินเทอร์เน็ตกับเครือข่ายภายในบ้านหรือออฟฟิศ ซึ่ง ONU จะทำหน้าที่เป็น DHCP server ในการจ่าย IP address ให้กับอุปกรณ์ภายในเครือข่าย
ผู้จึงใช้งานสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ค และอุปกรณ์ IoT ต่างๆ เข้ากับ ONU ผ่านทาง Wi-Fi ที่มีอยู่บน ONU ซึ่งจะช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
นี่คือขั้นตอนการเชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi สำหรับผู้เริ่มต้น:
- เปิดอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊ค
- ค้นหาสัญลักษณ์ Wi-Fi บนหน้าจอและคลิกเพื่อเปิดตัวเลือกการเชื่อมต่อ Wi-Fi
- รอสักครู่ระบบจะแสดงรายชื่อ Wi-Fi ที่ของบ้านคุณไม่ได้ตั้งชื่อไว้
- กดที่ชื่อ Wi-Fi ของคุณหรือที่ต้องการเชื่อมต่อ คลิกที่ปุ่ม “เชื่อมต่อ” หรือ “Join”
- ป้อนรหัสผ่าน Wi-Fi ที่กำหนดไว้ (หากไม่มีการล็อกไว้ก็ไม่ต้องใส่)
- รอจนกว่าระบบจะเชื่อมต่อกับ Wi-Fi และแสดงสัญลักษณ์ Wi-Fi บนหน้าจอของอุปกรณ์
- ทดสอบการใช้งานโดย เปิดบราวเซอร์หรือแอปพลิเคชันที่ต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ต
การขยายสัญญาน Wi-Fi โดยใช้ Router Wi-Fi อีกตัว
หากผู้ใช้งานต้องการขยายสัญญาน Wi-Fi ในบริเวณที่สัญญาณไม่ครอบคลุมหรือไม่แรงพอต่อการใช้งาน สามารถทำได้โดยการใช้ Router Wi-Fi ทั่วๆไปได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีในการขยายขนาดพื้นที่ให้มีสัญญาณ Wi-Fi ครอบคลุมมากขึ้นในบ้านหรือออฟฟิศ แต่คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่า.. ถ้าคุณเลยใช้วิธีนี้ที่บ้านคุณกำลังจะมีอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็น Router เพิ่มขึ้นอีก 1 ตัว จะส่งผลให้ที่บ้านคุณ มี 2 Network ด้วยกัน
สำหรับขั้นตอนการตั้งค่า Router ตัวใหม่ เพื่อใช้งาน Wi-Fi โดยการเชื่อมต่อกับ ONU Router Mode ดังนี้
- เชื่อมต่อ Router ตัวใหม่เข้ากับ ONU ที่ช่อง LAN ใดก็ได้ ด้วยสาย LAN ตามระยะสาย LAN ที่คุณต้องการ (ไม่เกิน 100 เมตร*)
- เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของคุณโดยใช้สาย LAN rหรือ Wi-Fi กับ Router ตัวใหม่ เพื่อเข้าสู่หน้าจอการตั้งค่า
- เข้าสู่หน้าจอการตั้งค่าของ Router ตัวใหม่ โดยพิมพ์ IP Address ของ Router ในช่อง Address Bar ของเว็บเบราว์เซอร์ เช่น 192.168.0.1 หรือตามที่คู่มือระบุมาให้
- เมื่อเข้าสู่หน้าจอการตั้งค่าของ Router ตัวใหม่แล้ว ให้เข้าสู่เมนู WAN Setup หรือ Internet Setup ขึ้นอยู่กับรูปแบบของ Router นั้น แล้วตั้งค่าดังนี้:
- WAN Connection Type: เลือกเป็น Dynamic IP (DHCP) หรือ Automatic Configuration — DHCP ซึ่งจะทำให้ Router ตัวที่ 2 สามารถรับ IP Address จาก ONU Router Mode ได้โดยอัตโนมัติ
5. ตั้งค่า IP LAN และ DHCP Server บน Router เพื่อจัดสรร IP address ให้กับอุปกรณ์ภายในเครือข่าย โดยห้ามซ้ำกับ IP ของ ONU
6.ตั้งค่าชื่อและรหัสผ่าน Wi-Fi บน Router ตัวใหม่ โดยห้ามเหมือนกับชื่อ Wi-Fi ของ ONU แต่ใช้รหัสผ่านเดียวกันได้
7. บันทึกการตั้งค่าและรีสตาร์ท Router ตัวใหม่ แล้วเชื่อมต่อเพื่อใช้งาน
สรุป
การขยายสัญญาณ Wi-Fi โดยใช้ Router Wi-Fi ตัวเพิ่มสามารถทำได้โดยการเชื่อมต่อ Router Wi-Fi ตัวใหม่เข้ากับ ONU Router Mode โดยตั้งค่า WAN Connection Type เป็น Dynamic IP (DHCP) หรือ Automatic Configuration — DHCP เพื่อให้ Router Wi-Fi ตัวที่ 2 สามารถรับ IP Address จาก ONU Router Mode ได้โดยอัตโนมัติ แล้วตั้งค่า IP LAN และ DHCP Server บน Router เพื่อจัดสรร IP address ให้กับอุปกรณ์ภายในเครือข่าย และตั้งค่าชื่อและรหัสผ่าน Wi-Fi บน Router ตัวใหม่ โดยห้ามเหมือนกับชื่อ Wi-Fi ของ ONU แต่ใช้รหัสผ่านเดียวกันได้ สุดท้ายบันทึกการตั้งค่าและรีสตาร์ท Router ตัวใหม่ แล้วเชื่อมต่อเพื่อใช้งาน
อย่างไรก็ตาม การขยายสัญญาณ Wi-Fi โดยใช้ Router Wi-Fi ตัวใหม่อาจมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ความเร็วในการส่งข้อมูลอาจลดลงเนื่องจากการเชื่อมต่อระหว่าง Router ตัวใหม่ เข้ากับ ONU ปัจจัยอาจเกิดจากคุณภาพสาย LAN , ระยะทาง การรบกวน ที่จะส่งผลต่อความเสถียรของการใช้งานผ่าน Wi-Fi ของ Router ตัวที่ 2 ได้