Fortinet กับ FortiGate คืออะไร ? ต่างกันยังไง

Fortinet คือบริษัทที่ผลิตเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับเครือข่ายและอุปกรณ์เน็ตเวิร์ก ซึ่งมีส่วนหนึ่งที่เป็นโซลูชันระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยผลิตภัณฑ์ที่มากที่สุดและโด่งดังที่สุดของ Fortinet คือ FortiGate

FortiGate เป็นซีรีส์ของอุปกรณ์ระบบรักษาความปลอดภัยของ Fortinet ซึ่งทำหน้าที่เป็น Firewall และ Unified Threat Management (UTM) ซึ่งประกอบด้วยหลายฟังก์ชันควบคู่กันเพื่อช่วยป้องกันและตรวจสอบอาการของการโจมตีและภัยความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับเครือข่าย ซึ่งฟังก์ชันหลักๆ ของ FortiGate ประกอบด้วยดังนี้

  1. Firewall: ทำหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมการเข้าออกของข้อมูลที่ผ่านผ่านเครือข่ายเพื่อป้องกันการโจมตีไม่ยอมรับและแฮ็กเกอร์
  2. IPS (Intrusion Prevention System): ช่วยป้องกันการโจมตีด้วยการตรวจจับและป้องกันโปรโตคอลที่ใช้ในการโจมตี
  3. VPN (Virtual Private Network): ช่วยเชื่อมต่อและรักษาความปลอดภัยของการเชื่อมต่อระยะไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
  4. Web Filtering: ช่วยบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมและเสี่ยงต่อความปลอดภัย
  5. Antivirus/Antimalware: ช่วยตรวจสอบและกำจัดไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ ที่อาจเข้าสู่เครือข่าย
  6. Application Control: ช่วยควบคุมและจำกัดการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการใช้งาน

ในสรุป Fortinet เป็นบริษัทที่ผลิตเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัย และ FortiGate เป็นซีรีส์ของอุปกรณ์ระบบรักษาความปลอดภัยของ Fortinet ที่มีฟังก์ชันหลายๆ อย่างในการช่วยปกป้องเครือข่ายไม่ให้เกิดอาการของการโจมตีและความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

ตัวอย่างซีรีส์ของ FortiGate ที่เป็นที่นิยมและใช้งานกันอย่างกว้างขวางในเครือข่ายขององค์กรต่างๆ ได้แก่

  1. FortiGate 60E: เป็นรุ่นที่มีขนาดกะทัดรัดและเหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็กถึงกลาง มาพร้อมกับความเร็วในการประมวลผลและฟังก์ชันรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมครบถ้วน
  2. FortiGate 100E: รุ่นนี้เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ มีประสิทธิภาพสูงและความสามารถในการจัดการที่หลากหลาย
  3. FortiGate 300E: อยู่ในกลุ่มของรุ่นขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับขีปนาวุธทางเทคนิคที่ทันสมัย เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่หรือองค์กรที่มีการใช้งานที่หนัก
  4. FortiGate 600E: เป็นรุ่นที่อยู่ในกลุ่มของระบบสามชั้นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ มีความสามารถในการรับมือกับการโจมตีระดับสูง
  5. FortiGate 1500D: เป็นรุ่นที่มีขนาดใหญ่และมีความสามารถในการจัดการที่สูงมาก เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีระบบเครือข่ายที่ซับซ้อน

โดยทุกๆ รุ่นของ FortiGate จะมาพร้อมกับความสามารถในการจัดการระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมทั้ง Firewall, IPS, VPN, Web Filtering, Antivirus/Antimalware, และ Application Control เพื่อให้เครือข่ายและข้อมูลขององค์กรปลอดภัยและเสถียรที่สุด

ตัว Performance ของ FortiGate ในแต่ละซีรีส์

ความสามารถและประสิทธิภาพของ FortiGate ในแต่ละซีรีส์มีความแตกต่างกันตามรุ่นที่ใช้ ดังนี้:

FortiGate 40F:

  • Firewall Throughput: 3.5 Gbps
  • IPS Throughput: 800 Mbps
  • VPN Throughput: 1 Gbps
  • Concurrent Sessions: 1,100,000

FortiGate 60E:

  • Firewall Throughput: 3 Gbps
  • IPS Throughput: 200 Mbps
  • VPN Throughput: 250 Mbps
  • Concurrent Sessions: 1,500,000

FortiGate 100E:

  • Firewall Throughput: 7 Gbps
  • IPS Throughput: 600 Mbps
  • VPN Throughput: 1 Gbps
  • Concurrent Sessions: 1,500,000

FortiGate 300E:

  • Firewall Throughput: 16 Gbps
  • IPS Throughput: 2.5 Gbps
  • VPN Throughput: 4 Gbps
  • Concurrent Sessions: 3,000,000

FortiGate 600E:

  • Firewall Throughput: 36 Gbps
  • IPS Throughput: 8 Gbps
  • VPN Throughput: 9 Gbps
  • Concurrent Sessions: 5,000,000

FortiGate 1500D:

  • Firewall Throughput: 20 Gbps
  • IPS Throughput: 5 Gbps
  • VPN Throughput: 6 Gbps
  • Concurrent Sessions: 5,000,000

โดยทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างของความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงานของ FortiGate ในแต่ละรุ่น อย่างไรก็ตาม ความสามารถและประสิทธิภาพของเครื่องอาจมีการอัปเกรดหรือเปลี่ยนแปลงในรุ่นต่อๆ ไป หากท่านต้องการข้อมูลล่าสุด ควรติดต่อเจ้าหน้าที่ของ Fortinet เพื่อขอความช่วยเหลือและข้อมูลที่เป็นปัจจุบันมากที่สุดครับ

--

--

ธนเดช ธรรมณวโสฬส
ธนเดช ธรรมณวโสฬส

Written by ธนเดช ธรรมณวโสฬส

เรียนรู้และการแบ่งปัน

No responses yet